กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของเกาหลีใต้ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาว่า ในสองสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน (วันที่ 1 ถึง 16 กันยายน) มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสูงถึง 6.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นถึง 0.4% จากปีที่แล้ว
การส่งออก K-Food Plus (+) ที่รวมทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ เช่น สมาร์ทฟาร์มและอุปกรณ์การเกษตรก็เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีที่แล้วเป็น 8.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อธิบายว่า “แม้จะมีสภาพการส่งออกที่ยากลำบากเพราะสถานการณ์ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเงินเยนอ่อนค่าเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป เช่น รามยอนและเครื่องดื่ม กับการส่งออกอาหารสด เช่น กิมจิ สตรอเบอร์รี่ และแพร์”
ในส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของประเทศจีนในเดือนกรกฎาคมก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 13.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 16 ของเดือนนี้ก็เพิ่มขึ้นถึง 11.3% โดยรายการสินค้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะผลจาก REOPENING โดยในอเมริการวมถึงสหภาพยุโรปก็กำลังฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกับตลาดอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเติบโต และตลาดเอเชียก็กำลังฟื้นตัวเนื่องจากอิทธิพลของฮันรยู และ K-Food
หากแยกดูตามรายการพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น รามยอน เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูป (รวมถึงคิมบับ) และผลิตภัณฑ์อาหารสด เช่น กิมจิ สตรอเบอร์รี่ และแพร์ มีแนวโน้มการเติบโตสูง
ในกรณีของรามยอน จากกระแสของฮันรยูคอนเทนต์ เช่น K-DRAMA ก็ทำให้รามยอนเผ็ดและรามยอนแบบผัดได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลังจากส่งออกเป็นจำนวนมากในปีที่แล้วในปีนี้ก็ยังเป็นสินค้าส่งออกที่ได้รับความนิยม โดยมีจำนวนอยู่ที่ 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของเกาหลีใต้ก็วางแผนมุ้งเน้นเรื่องความสามารถในการส่งออกเพื่อให้แนวโน้มขาขึ้นของการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในช่วงปลายปีสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยทำการวางแผนเพิ่มการจัดการอย่างใกล้ชิดกับบริษัทส่งออก เช่น การประชุมและเยี่ยมชมกับบริษัทส่งออกเพื่อตรวจสอบปัญหาและแก้ไขปัญหาการส่งออกและช่วยเหลือหาผู้ซื้อ เนื่องจากการควบคุมคุณภาพเป็นกุญแจสําคัญของผลิตภัณฑ์ของสดจึงต้องเพิ่มการสนับสนุนลูกโซ่ความเย็น (Cold chain) ในต่างประเทศ 5 ประเทศและจัดหาต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มเติมภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีนี้ก็วางแผนที่จะส่งเสริมการตลาดขนาดใหญ่ในตลาดการส่งออกสำหรับร้านจัดจําหน่ายขนาดใหญ่ในกว่า 20 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และอาเซียน เพื่อเป็นการเพิ่มการส่งออกให้มากขึ้นอีกด้วย
ควอนแจฮัน หัวหน้าแผนกนโยบายนวัตกรรมการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า “แรงผลักดันที่ส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพิ่มขึ้นแม้อยู่ในสภาวะที่ยากลำบากมาจากการที่รัฐบาลและบริษัทเกาหลีทำการบุกเบิกตลาดต่างประเทศบวกกับการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นอย่างแข็งขัน และจากความนิยมกับความสามารถในการแข่งขันด้านคุณภาพของ K-Food เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขยายการส่งออกโดยระดมทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปี เช่น การแบ่งย่อยเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การส่งออกตามสภาวะตลาดและตามชนิดของผลิตภัณฑ์”
